Sport Day
ใช้ กีฬา เพื่อลดความขัดแย้ง รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย สนุกสนานกับการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาภายในองค์กรในรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานกับกิจกรรมต่างๆ และกีฬาที่สนุกสนานเร้าใจท่ามกลาง การประกวดกองเชียร์ เชียร์ลีดเดอร์ เพื่อสะสมคะแนนให้ กับทีมของท่านกิจกรรมสปอร์ตเดย์เกมส์
มุ่งเน้นให้เกิดความสัมพันธ์อันดี ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ หรือศาสนาใด การมอบความรักและแบ่งปันสิ่งที่ดีต่อกัน เน้นสนุกสนาน
ไม่มีความเครียด ลดการแข่งขันในองค์กรของท่าน ทำให้เกิดสัมพันธภาพอันดีกับหมู่คณะ ลดความขัดแย้งซึ่งกันและกันและรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย
กิจกรรม Sport Day
การทำธุรกิจเปรียบเสมือนการแข่งขันกีฬา พนักงานเปรียบเสมือนนักกีฬา ดังนั้นหากนักกีฬามีเป้าหมายคือเหรียญทอง
หรือที่หนึ่ง การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน หากมีการวางแผนที่ดี วางตัวผู้เล่นที่ดี เป้าหมายที่ตั้งไว้คงไม่ไกลเกินเอื้อม
กิจกรรม sport day หรือ การแข่งขันกีฬาประจำปี จะส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ได้ความสามัคคีในหมู่คณะ
การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกาย ให้กับพนักงานอีกทางหนึ่ง
เราสามารถจัดการแข่งขันกีฬาให้กับท่าน ได้ทุกรูปแบบตามที่ท่านต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาสากล หรือกีฬาพื้นบ้าน
อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ และดัดแปลงกิจกรรมกีฬาให้เหมาะกับพนักงาน หรือ รูปแบบองค์กรของท่านตามอย่างที่ท่านต้องการ
วัตถุประสงของการจัด กิจกรรม สปอร์ตเดย์
เพื่อสร้างบรรยากาศของการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างบุคคลให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการช่วยเหลือให้กำลังใจกัน
และดูแลซึ่งกันและกัน กิจกรรมกีฬา สปอร์ตเดย์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพกาย สุขภาพใจ และหันหลังให้กับสิ่งเสพติด ที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรในองค์กร เพื่อเป็นการสนับสนุนให้นักศึกษากล้าแสดงออก เกิดความรักสามัคคีระหว่างกัน
มีการทำความรู้จักกัน เพื่อพึ่งพากันอันจะก่อให้เกิดการทำงานที่มีความสุข
ความเป็นมาของ การแข่งกีฬา Sport Day
การแข่งขันกีฬามีมาตั้งแต่โบราณกาล ดังเราจะเห็นได้จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโบราณ (Ancient Olympic Games)
เป็นเทศกาลทางศาสนาและกรีฑา ซึ่งจัดขึ้นทุก ๔ ปี ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งซุสในโอลิมเปีย กรีซ
โดยนครรัฐและราชอาณาจักรกรีซโบราณ ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมแข่งขัน โอลิมปิกโบราณนี้เน้นกรีฑาเป็นหลัก แต่ก็มีการแข่งขันต่อสู้และรถม้าด้วย
ระหว่างการแข่งขัน ความขัดแย้งระหว่างนครรัฐ ที่เข้าร่วมทั้งหมดจะถูกเลื่อนไปจนกว่าการแข่งขันจะเสร็จสิ้น จุดกำเนิดของกีฬาโอลิมปิกเหล่านี้ ยังเป็นปริศนาและตำนาน
เรื่องปรัมปราหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชี้ว่า
เฮราคลีสและซุสผู้เป็นบิดา เป็นแบบฉบับของกีฬาดังกล่าว ตามตำนาน เฮราคลีส เป็นผู้แรกที่เรียกกีฬานี้ว่า "โอลิมปิก"
และตั้งธรรมเนียมจัดการแข่งขันขึ้นทุก ๔ ปี ตำนานยืนยันว่า หลังจากที่เฮราคลีสสำเร็จภารกิจสิบสองประการ (twelve labors)
แล้ว เขาได้สร้างสนามกีฬาโอลิมปิก เพื่อถวายเกียรติแด่ ซุส หลังการแข่งขันนี้ เขาเดินเป็นเส้นตรงระยะ ๒๐๐ ก้าว
และเรียกระยะทางนี้ว่า "stadion" (กรีก: στάδιον, ละติน: stadium, "เวที")
ซึ่งภายหลังชาวกรีกยังใช้เป็นหน่วยวัดระยะทางด้วย
เรื่องปรัมปราอีกเรื่องหนึ่งเชื่อมโยงกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกกับมโนทัศน์การพักรบโอลิมปิก
(กรีก: ἐκεχειρία, ekecheiria, อังกฤษ: Olympic truce) ของกรีซวันก่อตั้งกีฬาโอลิมปิกโบราณ ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด
คือ ๗๗๖ ปีก่อนคริสตกาล ตามรอยจารึกซึ่งพบที่โอลิมเปีย และมีการระบุรายชื่อผู้ชนะการวิ่ง ซึ่งจัดขึ้นทุก ๔ ปี เริ่มตั้งแต่ ๗๗๖ ปีก่อน ค.ศ.
กีฬาโอลิมปิกโบราณมีรายการแข่งขันวิ่ง ปัญจกีฬา (ประกอบด้วยการกระโดด ขว้างจักร พุ่งแหลน วิ่ง และมวยปล้ำ)
ชกมวย มวยปล้ำ ศิลปะป้องกันตัวแพนแครชัน (pankration) และขี่ม้าความเชื่อมีอยู่ว่า คอโรเอบัส (Coroebus)
พ่อครัวจากนครเอลลิส (Elis) เป็นผู้ชนะโอลิมปิกคนแรก
|